Courtyard House พื้นที่สร้างสุข อยู่แล้วสบายใจ
Courtyard House จุดเริ่มต้นของ คอร์ตยาร์ต เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศจอร์แดน ซึ่งสมัยนั้นใช้เป็นเพียงลานนอกบ้านสำหรับเลี้ยงสัตว์ ทำอาหาร และพักผ่อนกลางแจ้ง ต่อมาได้ประยุกต์ ให้เป็นส่วนหนึ่งภายในอาคาร คือเป็นลานเล็กๆ กลางบ้านเพื่อผิงไฟ แล้วเจาะช่องหลังคาทะลุ เพื่อระบายควันไฟ และมาเป็นที่นิยม ในช่วงศตวรรตที่ 20 ในลอสแอนเจลิส ที่แทรกเข้าไปในอพาร์ทเม้น
สำหรับเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งสระว่ายน้ำ พื้นที่สังสรรค์ บาร์บีคิว และพื้นที่ให้ผู้คนได้ออกมานั่ง สัมผัสกับอากาศดีๆ คอร์ตยาร์ต (COURTYARD) หมายถึง พื้นที่ที่เกิดจากการ ปิดล้อมด้วยกำแพง หรืออาคารอย่างน้อย 3 ด้าน โดยไม่มีหลังคาปกคลุม ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ Outdoor Courtyard และ Inner Courtyard ปัจจุบันประยุกต์ เป็นลานหญ้าหรือปลูก ต้นไม้เพื่อดึงธรรมชาติและแสง เข้าสู่ภายในอาคาร บ้านโถงสูง
แบบบ้าน Courtyard House นี้มี Roof Garden
บ้านที่ดีไม่ควรตอบโจทย์ สำหรับสมาชิกเพียง คนใดคนหนึ่ง แต่ต้องแบ่งปันเอื้ออาทรสเปซร่วมกันในบ้าน ได้ สำหรับสมาชิกที่มีไลฟ์สไตล์ และความชอบเหมือน ๆ การสร้างบ้านก็คงไม่ยากเท่าไหร่ แต่สำหรับบ้านที่มีคนหลายรุ่นมีความต่างภูมิหลัง และประสบการณ์ทำให้ การออกแบบบ้าน ท้าทายขึ้นไปอีก อย่างที่เราเห็นว่าผู้สูงวัยบาง ท่านไม่อยากมาอยู่บ้าน ในเมืองเพราะไม่คุ้นบรรยากาศเมือง ผู้คน และรูปแบบบ้านที่ผิดหูผิดตา เหมือนเช่นบ้านนี้ในเวียดนามที่ต้อง อยู่ร่วมกับผู้สูงวัย
คุณปู่เคยอาศัยอยู่ ในเวียดนามเหนือ และใช้ชีวิตเรียบง่าย เป็นเกษตรกร แต่ลูก ๆ เรียนและทำงานที่ดานัง เด็กๆ รุ่นหลานเติบโตขึ้นมา ท่ามกลางอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตกสมัยใหม่ จึงต้องการบ้าน สมัยใหม่ที่ยังคงกลิ่นอายบ้านในชนบท
“The House of Mind” เป็นชื่อโครงการตั้ง อยู่ในเขตชานเมือง Da Nang ประเทศเวียดนาม เจ้าของบ้านคาดหวังที่จะ มีบ้านในสไตล์โมเดิร์น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการ สะท้อนแนวคิดชีวิต ที่เรียบง่ายและดั้งเดิม เพื่อให้คุณปู่รู้สึกเหมือนบ้าน ในหมู่บ้านในอดีต การประสานพฤติกรรม การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของสมาชิกใน ครอบครัวแต่ละคน ลงในบ้านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
สถาปนิกแก้โจทย์ปัญหา นี้ด้วยการเลือกวัสดุ ที่คุ้นตาหาได้ง่ายในท้องถิ่นอย่างบล็อกคอนกรีต ไม้ อิฐ และการจัดให้พื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่สาธารณะรอบ ๆ ห้องโถงให้บรรยากาศ คล้ายคลึงกับประสบการณ์ เดิมของคุณปู่คุณย่า แต่มีความสะดวก ทันสมัย และสอดคล้องกับสภาพ อากาศไปพร้อมกัน
เมื่อไลฟ์สไตล์ของคน แต่ละเจเนอเรชั่น ไม่เหมือนกัน สมาชิกแต่ละคนก็ต้องการพื้นที่ของตัวเอง ดังนั้นสถาปนิกของ Ho Khue Architects (ALPES) จึงเสนอให้แบ่งที่ดินเป็น พื้นที่ส่วนตัวนอกเหนือ จากพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง โดยชั้นแรกประกอบด้วย 4 บล็อก แบ่งเป็นห้องครัว – ห้องรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และห้องนอน 2 ห้อง ทุกห้องหันหน้าล้อม รอบคอร์ทยาร์ด 2 แห่ง ที่คั่นด้วยสระน้ำขนาดเล็กๆ Luxury villa
เมื่อไลฟ์สไตล์ของคน แต่ละเจเนอเรชั่นไม่เหมือนกัน สมาชิกแต่ละคนก็ต้องการพื้นที่ของตัวเอง ดังนั้นสถาปนิกของ Ho Khue Architects (ALPES) จึงเสนอให้แบ่งที่ดินเป็น พื้นที่ส่วนตัวนอก เหนือจากพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง โดยชั้นแรกประกอบด้วย 4 บล็อก แบ่งเป็นห้องครัว – ห้องรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และห้องนอน 2 ห้อง ทุกห้องหันหน้า ล้อมรอบคอร์ทยาร์ด 2 แห่ง ที่คั่นด้วยสระน้ำขนาดเล็กๆ
บ้านที่มีพื้นที่ให้ใช้ชีวิตกลางแจ้งดูมีชีวิตชีวาน่าอยู่
อาศัยมากกว่าบ้านที่เต็ม ไปด้วยความทึบของผนัง การเปิดบ้านส่วนหนึ่งให้เป็นพื้นที่ open space ไม่ต้องมีหลังคา คลุมแล้วจัดเป็น สวนที่เปิดโล่งรับทั้งแสง ลม และฝน ให้ตัวบ้านได้บรรยากาศ ธรรมชาติที่ผ่อนคลาย และเพิ่มความน่าอยู่อย่างสบายให้บ้าน สามารถสังเกต ความเปลี่ยนแปลง ของสวนได้อย่างใกล้ชิดในแต่ละฤดูกาล
สำหรับพื้นที่ส่วนตัว เช่น ห้องนอนและห้องน้ำ จะแยกออกจากพื้นที่สาธารณะ เช่น ห้องครัวและร้านอาหาร และใช้สะพานเพื่อเชื่อม ที่แยกจากกันพร้อมให้รู้สึกว่าไม่ถูกตัดขาดออกจากกัน สะพานนี้ยังกระตุ้น ให้เจ้าของบ้านเคลื่อนไหวและเพิ่มความรู้สึก ของการสื่อสารด้วย ภาพเพิ่มการเชื่อมต่อเส้นสายตา ไม่ให้รู้สึกว่าบ้านถูกแยก ตัดขาดออกจากกัน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของ The Home of Soul ที่พยายามสร้างแบบ จำลองสำหรับ ครอบครัวที่ส่งเสริมให้สมาชิก แยกกันอยู่แต่อยู่ด้วยกัน
ขึ้นไปชั้นสองพื้นที่ ใช้งานจะถูกลดให้เหลือ เพียงสองช่วงตึก โดยหลังคาห้องนอนสองห้องบนชั้นแรก ที่เป็นหลังคาแบน (slab) ถูกจัดให้กลายเป็นสวนสีเขียวสองแห่ง ลานบ้านและหลังคาทำหน้าที่ เป็นเปลือกสีเขียวครอบคลุมพื้นที่ใช้ชีวิตข้างล่าง นอกจากนี้บริเวณ ระเบียงยังปลูกไม้เลื้อย ให้ไหลยาวลงมาช่วยกรองแสง ลดอากาศร้อน ภายในบ้านจึงมีความ สะดวกสบายและน่าอยู่
การทำฟาร์มเป็นกิจกรรมที่คุณปู่ได้ระลึกถึงการใช้ชีวิตในชนบท
เจ้าของบ้านจึงจัด พื้นที่ในดาดฟ้าชั้น 4 เป็นสวนครัวปลูกผัก ไม้ผล สุมนไพร ซึ่งมีทั้งผักบนแปลง และผักที่เลื้อยบนค้าง โดยจะใช้กำแพง ช่องลมเป็นตัวช่วย เมื่อเวลาผ่านไป มวลอาคารจะค่อยๆ ปกคลุมด้วยพืชผัก เพื่อสร้างกำแพงที่มองเห็นได้ การปลูกผักทานเอง นอกจากจะ และช่วยให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพดี ไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษ ประหยัดค่าใช้จ่าย แล้ว เหนือสิ่งอื่นใดยังรักษาความสุข ของปู่ในการได้ทำงาน เกษตรที่ทำมาตลอดทั้งชีวิต
การทำ roof garden หรือการทำสวนปลูก พืชบนหลังคา ดาดฟ้า ของบ้าน จะเป็นการ สร้างสภาพแวดล้อม ทางนิเวศวิทยาในพื้นที่ ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถกรองอุณหภูมิสูง จากความร้อนที่ถ่ายเท จากหลังคา บ้านด้านล่างจึงเย็นขึ้น เมื่อมองไกล ๆ ยังทำให้บ้านดู เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
แต่การทำสวนบนหลังคาต้องผ่านการ ออกแบบตั้งแต่แรก เพื่อคำนวณให้หลังคา สามารถรับน้ำหนักเครื่องปลูก ต้นไม้ และน้ำ ป้องกันการถล่มของหลังคา นอกจากนี้ยังต้องทำระบบกันซึม และการระบายน้ำเอาไว้ดวย เพื่อไม่ให้เกิด การรั่วซึมสร้างความเสียหาย ให้หลังคาและบ้าน
การทำที่ว่างในคอร์ตกับที่ว่างรอบบ้านต่างกันอย่างไร
พื้นที่ คอร์ต เป็นการสร้างมุมมอง และพื้นที่ใช้งานร่วมกัน จึงเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการให้เกิดกิจกรรม และสร้างการรับรู้ หรือ ให้มองเห็นกันได้ และเป็นวิธีเพิ่มพื้นผิวอาคาร เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ และเพิ่มการระบายอากาศ แต่เมื่อมีคอร์ตมาคั่นพื้นที่ ใช้งานในบ้านแล้ว มักจะทำให้ระยะ การเดินในบ้านไกลขึ้น
การสร้างบ้านโดยเว้นพื้นที่ ว่างไว้รอบบ้านจะทำให้ แต่ละห้องได้ทัศนียภาพต่างกัน พื้นที่ภายในบ้านกระชับทำให้ ระยะการเดินไม่ไกลกัน และดูแลภายในบ้านได้ง่าย แต่ถ้าที่ดินมีขนาดเล็ก พื้นที่ว่างรอบบ้านแต่ ละด้านก็จะถูกแบ่งย่อยจนใช้งานไม่ค่อยได้ จึงเหมาะกับบ้าน ที่มีพื้นที่กว้างพอสมควรหรือต้องการเว้นระยะห่าง จากพื้นที่ข้างเคียง