แต่งบ้าน ราคาประหยัด

แต่งบ้าน ราคาประหยัด

แต่งบ้าน ราคาประหยัด ตกแต่งภายในบ้านแบบประหยัดด้วยตัวเองใช่ว่าจะทำไม่ได้ ใครที่มีแผนตกแต่งภายในบ้านให้สวยเหมือนใหม่ แต่ไม่อยากลงทุนสูง ลองมาดู 9 วิธีดังต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้บ้านของคุณน่าอยู่ รวมถึงหากจะปล่อยเช่าหรือขายต่อก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น

1. เสนห์ของเฟอร์นิเจอร์เก่า

การตกแต่งภายในบ้านแบบประหยัดให้ดูดีไม่จำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ใหม่เสมอไป เพราะเฟอร์นิเจอร์เก่าหลาย ๆ ชิ้นก็ดูดีมีเสน่ห์ในตัวเอง เช่น โต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ สามารถนำมาแต่งบ้านได้ในสไตล์วินเทจ ให้บรรยากาศแบบย้อนยุค

มาดู How to เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านแบบคนฉลาดเลือก ที่จะทำให้บ้าน-คอนโดของคุณน่าอยู่มากขึ้นในทุกวันกัน

2. ทาสีเฟอร์นิเจอร์เก่าให้ดูใหม่

การทาสีเฟอร์นิเจอร์เก่าเป็นอีกวิธีที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ตัวโปรดให้กลับมาดูดีเหมือนใหม่ เพราะหากต้องทิ้งเฟอร์นิเจอร์ที่ยังใช้งานได้ดีเพื่อซื้อใหม่ก็จะเป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุ ลองเปลี่ยนมาทาสีเคลือบเงา ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เหมือนได้ของใหม่ แถมยังประหยัดเงินน่าจะดีกว่า

3. การจัดระเบียบให้บ้านใหม่

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้บ้านดูดี น่าอยู่ขึ้น เพราะถ้าบ้านไม่ได้รับการระเบียบให้ดูสะอาด เรียบร้อยแล้ว นอกจากจะทำให้บ้านไม่น่าอยู่แล้ว ยังทำให้ผู้อยู่อาศัยอึดอัด ไม่สบายกาย สบายใจไปด้วย ห้องนอนหรูๆ

4. สร้างเลเยอร์ให้พื้นห้อง

หากพื้นห้องนั่งเล่นดูเรียบเกินไป เราสามารถนำพรมหรือผ้าขนสัตว์ มาปูที่พื้นภายในบริเวณห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน เพื่อสร้างมิติให้กับพื้นห้อง เพราะพรมหรือผ้าขนสัตว์ไม่เพียงแค่ช่วยสร้างเลเยอร์ให้พื้นห้อง แต่ยังช่วยให้เรารู้สึกอุ่นเท้าในเวลาที่เราเปิดแอร์เย็น ๆ ได้ด้วย ตกแต่งบ้านมินิมอล

5. ตกแต่งด้วยของที่ระลึกหรือของสะสม

สำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวไปที่ต่าง ๆ แล้วมีของที่ระลึกหรือมีของสะสมสวย ๆ หากจะเก็บไว้ในลิ้นชักไม่ได้โชว์ใครคงน่าเสียดายไม่น้อย การนำออกมาใช้ตกแต่งบ้านก็เป็นหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ แล้วยังสะท้อนตัวตนของผู้อาศัย แถมยังระลึกถึงวันเวลาที่ได้ไปเที่ยวเพื่อเก็บของที่ระลึกหรือของสะสมเหล่านี้อีกด้วย

6. งาน DIY ช่วยได้

หากเลือกซื้อของตกแต่งบ้านแล้วไม่ถูกใจ หรือราคาอาจแพงเกินไป การสร้างสรรค์ผลงานให้บ้านด้วยตัวเองก็ไม่เลวนะ หลาย ๆ คนชอบวาดภาพ ชอบ DIY ผลงานที่คุณสร้างขึ้นเหล่านั้น ล้วนแต่สามารถใช้ตกแต่งบ้านได้ เท่านี้ก็ทำให้เรามีของตกแต่งบ้านแล้ว แถมของเหล่านั้นยังมีคุณค่า น่าภูมิใจ และยังประหยัดอีกด้วย

7. ทาสีบ้านด้วยสีโทนอบอุ่น

โทนสีของบ้านมีผลต่อความหรูหราเช่นกัน ดังนั้นในการเลือกโทนสีอุ่นอย่างสีแดง ส้ม เหลือง จะสร้างบรรยากาศสบาย ๆ ในขณะที่สีโทนเย็นอย่างสีเทา เขียว ฟ้า จะเกี่ยวข้องกับความสงบและทำให้บ้านดูกว้างขึ้นซึ่งหากเราจะตกแต่ง ซึ่งหากเราจะตกแต่งบ้านก็ลองจัดสรรเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ให้อยู่ในโทนสีอบอุ่น ของที่ใช้วางแต่ละมุมอาจจะกำหนดโทนสีกันเล็กน้อย ไม่วางคละกัน เพื่อให้บ้านดูมีสีสันและคุมโทนได้อย่างสวยงาม

8. ผ้าม่านเพิ่มความโล่งสบาย

ผ้าม่านไม่ได้เป็นแค่ที่กันแสงแดด แต่ยังช่วยทำให้บ้านโปร่งโล่ง สำหรับบ้านที่เพดานไม่สูงมากนัก ผ้าม่านจะช่วยทำให้เพดานดูสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะม่านหน้าต่าง เทคนิคคือติดราวให้สูงกว่ากรอบหน้าต่างก็ช่วยให้ห้องของเราดูว่าเพดานสูงขึ้น รู้สึกโปร่งโล่ง สบายขึ้นได้ไม่น้อย

9. บ้านหรูและกว้างขึ้นด้วยกระจก

กระจกถือเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ทุกบ้านควรมี เพราะกระจกไม่ได้เพียงแค่ช่วยให้บ้านหรูหรา แต่ยังช่วยให้บ้านดูกว้างและสว่างมากขึ้น ใช้ได้ทั้งการวางไว้มุมใดมุมหนึ่ง แขวน หรือติดไว้ตามผนังบ้านก็ได้ แต่หากใครที่อยากได้แบบที่มีรวดลายจะลงทุนก็สามารถเลือกกระจกที่กรอบสวยมาตกแต่งบ้านเพิ่มความมีศิลปะไปในตัวก็ได้เช่นกัน

นอกจากวิธึตกแต่งภายในบ้านแบบประหยัดทั้ง 9 ข้อแล้ว การเลือกตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชั่น ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการตกแต่งภายในบ้านแบบประหยัดและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นด้วยเช่นกัน

การตกแต่งภายในบ้านแบบประหยัดด้วยสไตล์มินิมอล

เป็นสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่มีฟังก์ชั่นใช้งานได้หลากหลาย เลือกใช้งานสิ่งต่าง ๆ ตามความจําเป็น ในการจัดวางวางเฟอร์นิเจอร์ยังต้องจัดวางอย่างมีระเบียบเรียบร้อย เอกลักษณ์ของการตกแต่งสไตล์มินิมอล คือการใช้โทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อน และการออกแบบที่มีเส้นสายที่เรียบง่ายมีความสมดุลและความผ่อนคลาย เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่เลือกใช้ ต้องตอบสนองการใช้งานได้หลากหลาย

นอกจากนี้ การจัดวางให้มีพื้นที่ใช้สอยคือจุดเด่นของการตกแต่งสไตล์มินิมอล เพราะสไตล์การตกตกแต่งภายในบ้านแบบนี้จะไม่นิยมวางสิ่งของ หรือเครื่องใช้ที่ไม่จําเป็นไว้ด้วยกัน แต่จะเน้นความเรียบง่าย จัดวางของตกแต่งน้อยชิ้น แต่ครบครันในเรื่องการใช้ประโยชน์

ข้อดีของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล คือ ใช้งบประมาณน้อย เพราะเน้นของตกแต่งน้อยชิ้น แถมยังช่วยคลายเครียด เพราะยิ่งมีของตกแต่งมากชิ้น ก็ยิ่งมีภาระวุ่นวาย โดยเฉพาะเวลาต้องย้ายของ เพราะกว่าจะเก็บและย้ายต้องใช้เวลามาก แต่ถ้ามีของน้อยชิ้นที่มีประโยชน์ต่อการใช้สอยจริง ๆ นอกจากจะไม่ทำให้บ้านรกไปด้วยของใช้ที่ไม่จำเป็นแล้ว ยังทำให้บ้านดูเรียบง่ายสบายตา สบายใจ อีกด้วย

อีกหนึ่งข้อดีของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลคือทำความสะอาดได้ง่ายกว่าการตกแตกบ้านด้วยสิ่งของจำนวนมาก เพราะไม่ต้องเสียเวลาปัดกวาด เช็ดถู หรือดูดฝุ่นหลายรอบ จึงใช้เวลาทำความสะอาดไม่นาน มีเวลาเหลือให้ไปทำธุระอย่างอื่นมากขึ้น

ทำไมห้องสไตล์มินิมอลถึงขายต่อหรือปล่อยเช่าได้ง่าย จำเป็นต้องตกแต่งน้อยชิ้นเสมอไปหรือไม่ มาหาคำตอบกัน

เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชั่นตอบโจทย์การแต่งบ้านสไตล์มินิมอล

สิ่งสำคัญของการตกแต่งบ้านแบบประหยัดสไตล์มินิมอลคือ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ด้วยเหตุนี้เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชั่น จึงเป็นอีกหนึ่งคำตอบในการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เพราะตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ใช้สอยจำกัด

สามารถใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชันช่วยอำนวยความสะดวกสบาย เพิ่มพื้นที่ให้บ้านกว้างขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะไม่ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์หลาย ๆ ชิ้นในคราวเดียวกัน เช่น ตู้วางรองเท้า ที่ใช้จัดเก็บรองเท้าให้เป็นระเบียบและใช้เป็นเก้าอี้นั่งพักผ่อนบริเวณด้านหน้าบ้านได้ หรือเตียงนอนที่มีลิ้นชักจัดเก็บด้านข้างหรือใต้เตียงเพื่อใช้เก็บผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน เป็นต้น

ปัจจุบันมีเฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชันหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานตั้งแต่ เตียงนอน โซฟาเบด ตู้รองเท้า ชั้นวางของ โต๊ะทำงาน โต๊ะรับประทานอาหาร เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัยของคนในปัจจุบันที่เน้นความสะดวกสบาย และคล่องตัว

สำหรับ 9 วิธีตกแต่งภายในบ้านแบบประหยัดด้วยตัวเอง กับสไตล์การตกแต่งบ้านแบบมินิมอล และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชั่น ที่นำเสนอในบทความนี้เชื่อว่า น่าจะช่วยสร้างไอเดียดี ๆ ให้กับผู้ที่กำลังหาแนวทางการตกแต่งภายในบ้านแบบประหยัดได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ