บ้านญี่ปุ่น สไตล์มูจิ

บ้านญี่ปุ่น สไตล์มูจิ

บ้านญี่ปุ่น สไตล์มูจิ 1

บ้านญี่ปุ่น สไตล์มูจิ

Japanese house, Muji style นี่คือหัวใจสำคัญของ  Yō no Ie House บ้านชั้นเดียวมินิมัล แบบมูจิ ขนาดกะทัดรัดกับแปลนบ้านแบบผังอิสระที่ไร้ผนังกั้น พร้อมทั้งชานไม้ขนาดใหญ่ที่เน้นการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ยืดหยุ่นต่อรูปแบบการอยู่อาศัย และเอื้อต่อการเติบโตของครอบครัว

“ไม่ใช่แค่สิ่งก่อสร้างที่เรียกว่าบ้าน แต่เป็นวิถีการดำเนินชีวิต” Yō no Ie House คือแบบบ้านที่มูจิเลือกนำเสนอในวาระครบรอบ 15 ปีที่ได้เริ่มธุรกิจบ้านสำเร็จของตนขึ้น ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปในปี 2004 สิ่งที่ทำให้ MUJI สนใจในธุรกิจบ้านสำเร็จรูปก็คือ คำถามคาใจว่าทำยังไงจะแก้ปัญหาความเสื่อมราคาของตัวบ้านตั้งแต่วันที่ซื้อและถูกรื้อทิ้งเมื่อผ่านไป 30 ปี (ที่ญี่ปุ่นมีกฎหมายที่บังคับให้ต้องรื้อบ้านทิ้งหรือรีโนเวตทุกๆ 30 ปี เพื่อความปลอดภัยของชุมชนโดยรวม) ด้วยเหตุนี้เอง MUJI จึงตั้งใจที่จะนำเสนอบ้านที่สามารถอยู่อาศัยไปได้อย่างมั่นคง และผูกพันธ์กับครอบครัวของเจ้าของบ้านตราบทศวรรษจากรุ่นสู่รุ่นด้วยความเชื่อใน “ความสุขที่เรียบง่ายและอบอุ่น” ซึ่งจะนำพา “ชีวิตที่ดี” มาสู่เจ้าของและชุมชนโดยรวม

Yō no Ie House  ถูกออกแบบให้เป็น “บ้านชั้นเดียว” ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่ใช้สอยภายในที่สามารถออกแบบให้โล่งกว้างขึ้นได้เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการแผ่ขยายออกไปยังพื้นที่รอบๆบ้านด้วยบานเปิดขนาดใหญ่ สามารถเชื่อมโยงธรรมชาติให้เสมือนหนึ่งเป็นห้องนั่งเล่นอีกห้องหนึ่งเลยทีเดียว

แนวความคิดในการออกแบบนั้นอิงจากความต้องการที่จะให้ “กิจวัตร” ของบ้านหลังนี้เชื่อมโยงกับธรรมชาติภายนอก การได้ออกมาเดินเหยียบดิน ใช้ชีวิตนอกบ้าน รับแดดอ่อนๆยามเช้า และผ่อนคลายในยามบ่ายคือจุดมุ่งหมายที่จะ “เติมเต็ม” สิ่งดีๆเหล่านี้ให้กลับมาสู่ชีวิตคนเมืองอีกครั้ง

ในเขตเมืองที่มีประชากรและบ้านเรือนอยู่หนาแน่น ที่อยู่อาศัยมักจะเติบโตขึ้นโดยการสร้างซ้อนทับเหลื่อมกันไปจากชั้นหนึ่งสู่ชั้นสองชั้นสาม ด้วยเหตุนี้ Muji จึงได้ออกแบบการใช้งานโดยคำนึงถึงรูปแบบที่มากกว่าแค่การใช้พื้นที่ในรูปแบบตายตัว แต่ยังมองไปถึงการใช้งานที่หลากหลายในพื้นที่เดียวกัน ทั้งยังเลือกที่จะเอาผนังหรือสิ่งปิดกั้นอื่นๆออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ในอีกทางหนึ่ง การที่บ้านจะสามารถเป็น “บ้านชั้นเดียว” ซึ่งสามารถอยู่อาศัยได้อย่างดีโดยไม่จำเป็นต้องมีบันไดอยู่ในบ้านนั้น

จะทำให้การอยู่อาศัยเป็นไปโดยธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้สูงอายุก็จะสามารถใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้ได้โดยง่าย และ Yō no Ie House ยังได้คิดไปถึงการใช้งานพื้นที่ที่ไม่ใช้เพียงพื้นที่ภายใน แต่ยังต่อเนื่องออกไปยังพื้นที่ภายนอก เจ้าของบ้านอาจเปลี่ยนสวนให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นในวันหยุดพักผ่อน ให้พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองได้ใกล้ชิดกับผู้อยู่อาศัยทั้งที่อาจจะเคยเป็นเรื่องยาก สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นกิจวัตรที่เกิดขึ้นได้โดยอยู่ในชีวิตประจำวัน “เพราะบ้านหลังนี้อาจจะเป็นบ้านหลังแรกของใครบางคน แต่ก็ยืดหยุ่นพอที่จะปรับปรุงให้เป็นบ้านที่อยู่ไปได้จนแก่เฒ่า ไม่ว่าจะครอบครัวเดี่ยว หรือครอบครัวขยาย MUJI เชื่อว่าบ้านชั้นเดียวหลังนี้สามารถจะตอบโจทย์ “ชีวิตที่ดี” ให้กับผู้คนได้อย่างแน่นอน”

หน้าต่างขนาดใหญ่ที่เปิดและปิดได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่รับวิวสวนเข้าสู่ภายในบ้าน Yō no Ie House ถูกออกแบบมาโดยยึดแนวคิดที่ว่าต้องไม่มีขอบเขตกั้นระหว่างบ้านและสวน หน้าต่างกระจกบานใหญ่นั่นสามารถที่จะเปิดออกได้จนสุดและสามารถเก็บซ่อนเอาไว้ภายในผนัง บานกระจกเหล่านี้ใช่เพียงทำหน้าที่แบ่งกั้นบ้านหลังนี้ออกจากธรรมชาติภายนอกเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสะพานที่เชื่อมโยงบ้านและสวนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ลบขอบเขตที่เคยมีให้หายไป และสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆในการใช้ชีวิตให้เกิดขึ้น บ้านเดียว สไตล์ มูจิ มินิมอล

ด้วยการออกแบบที่ไร้ซึ่งขอบเขตระหว่างภายในห้องและชานบ้าน สวนและพื้นที่นั่งเล่นจึงถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกันได้โดยง่าย ในวันหยุดนั้นเจ้าของบ้านอาจจะเลือกนำเอาโต๊ะทานข้าวออกมานั่งเล่นกันที่นอกชาน รับประทานอาหารในสวนกับเพื่อนๆและครอบครัว แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติเล็กๆของสวนรอบบ้าน เป็นความสุขง่ายๆที่ทำได้บ่อยๆภายในบ้านของเราเอง “ความสุขเล็กๆที่เกิดขึ้นได้ในทุกๆวัน” คือปรัญญาที่ MUJI ยึดถือตลอดมา

บ้านญี่ปุ่น สไตล์มูจิ 2

หลากนิยามการใช้งานในพื้นที่เปิดกว้างไร้ผนังมาแบ่งกั้น

สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่ในบ้านหลังนี้นั้น ด้วยขนาดราว 80 ตารางเมตร อาจจะดูเหมือนไม่ใหญ่โตนัก แต่ด้วยการจัดการพื้นที่ใช้สอยให้มีความหลากหลายแม้ในพื้นที่หนึ่งๆ บ้านหลังนี้จึงสามารถตอบสนองการอยู่อาศัยได้อย่างครบครับ อาทิเช่นพื้นที่ครัวที่ติดตั้งบนเคาน์เตอร์นั้นจะไม่ถูกใช้งานเป็นพื้นที่ประกอบอาหารเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถกลายเป็นพื้นที่ที่ครอบครัวจะมารวมตัวกับสังสรรค์และนั่งเล่นกันได้ หรืออย่างส่วนสำคัญของบ้านเช่นห้องนอน MUJI ก็เลือกที่จะออกแบบให้สามารถเป็นได้มากกว่าพื้นที่สำหรับพักผ่อน โดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่จะสามารถตอบสนองการใช้งานได้หลากเวลาและโอกาสมากขึ้น อย่างการนอนอ่านหนังสือ นั่งทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ทานอาหารเช้าบนเคาน์เตอร์หัวเตียง ซึ่งถ้าเราเลือกที่จะใช้ประโยชน์อันหลากหลายจากพื้นที่หนึ่งๆ ผ่านงานออกแบบและเฟอร์นิเจอร์โดยไม่ยึดติดการใช้งานจากเพียงนิยามของชื่อห้องเท่านั้น พื้นที่เดิมๆก็สามารถจะเป็นได้มากกว่าที่เคยเป็น และ Yō no Ie House ก็ทำตัวเหมือนเป็นห้องหนึ่งห้อง ที่อัดแน่นไปด้วยความเป็นไปได้เหล่านั้นอย่างเต็มเปี่ยม

บ้านชั้นเดียวที่มีพื้นที่ต่อเนื่องกันแบบเปิดโล่ง จัดวางห้องครัวไว้ทิศเหนือของบ้าน(ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จะเสียพื้นที่ไปหากต้องมีบันไดบ้าน) พื้นที่ทั้งหมดต่อเนื่องไปยังชานและสวนในทางทิศใต้  ด้วยห้องขนาด 80 ตารางเมตรซึ่งไม่มีเสาและกำแพงกั้น จึงทำให้ได้พื้นที่ขนาดใหญ่ที่รวมเอาทั้งห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว และห้องนอนเอาไว้เป็นพื้นที่เดียวกันได้ ในส่วนห้องนอนนั้นเลือกใช้ผนังบานเลื่อนสำหรับกั้นแบ่งพื้นที่ แต่ละส่วนนั้นสามารถเชื่อมโยงออกไปยังภายนอกได้โดยสะดวกผ่านบานเลื่อนกระจกที่สามารถเปิดออกได้จนสุด มากกว่านั้นบ้านหลังนี้ยังมีเพดานสูงถึง 3.9 เมตรเสริมความโปร่งสบายอีกด้วย แม้จะเป็นผู้สูงอายุก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะการที่บ้านไม่มีบันไดและผนังกั้นจึงทำให้สามารถใช้ชีวิตได้โดยง่ายในบ้านหลังนี้

เมื่อเปิดบานเลื่อนกระจกออกจนสุด ด้วยลักษณะของชายคาบ้านหลังนี้ทุกๆส่วนของบ้านจะสามารถรับลมเย็นๆในหน้าร้อนและแดดอันอบอุ่นในหน้าหนาว(ของประเทศญี่ปุ่น) เคาน์เตอร์และโต๊ะทานข้าวนั้นตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เชื่อมโยงไปสู่พื้นที่ภายนอกได้โดยง่าย หากนึกอยากจะรับประทานอาหารในบรรยากาศกึ่งเอาต์ดอร์ก็เพียงเปิดบานหน้าต่างออกเท่านั้น ซึ่งเคาน์เตอร์ครัวในตำแหน่งนี้นั้นก็สามารถที่จะมองเห็นไปได้ยังทุกพื้นที่ของบ้าน สร้างให้คนในบ้านมีกิจกรรมร่วมกันได้มากขึ้น ทั้งเด็กๆยังสามารถวิ่งเล่นผ่านบานเปิดเหล่านี้จากห้องนั่งเล่นสู่ชานและสวนได้ตลอดเวลา

สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เด่นชัดที่สุดของบ้าน Yō no Ie House ก็คือการสร้างโอกาสที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติให้เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน สิ่งนี้จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายในโลกดิจิตอลของผู้คนในปัจจุบัน อีกทั้งในแง่ของความเป็นครอบครัว ไม่ว่าจะผู้สูงอายุที่ต้องการการพักผ่อน หรือเด็กๆที่ต้องการการผจญภัยเล็กๆในสวนรอบบ้าน Yō no Ie House สามารถจะเชื่อมโยงช่วงวัยที่แตกต่าง และสมาชิกในครอบครัวเข้าหากันได้ผ่านพื้นที่ปฏิสัมพันธ์ที่ถูกออกแบบไว้อย่างดี พี้นที่ที่ถูกออกแบบเพื่อสร้าง “ความเป็นไปได้ที่หลากหลาย” ของการใช้ชีวิตร่วมกัน และนี่ก็คือบ้าน Yō no Ie House โดย MUJI ที่น่าจะเป็นหนึ่งแนวทางสำหรับใครหลายๆคนที่ต้องการสร้าง “ความสุขเล็กๆ” ในบ้านให้มากขึ้นในทุกๆวัน แบบบ้านพูลวิลล่าโมเดิร์น สวยๆ

บ้านญี่ปุ่น สไตล์มูจิ 3

สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักแต่งบ้านทุกคน สำหรับวันนี้เรามีรูปแบบบ้านสไตล์ญี่ปุ่นอีกหนึ่งแบบที่น่าสนใจ จนอยากพาเพื่อน ๆ ทุกคนไปรู้จักบ้านสไตล์นี้กัน นั่นก็คือบ้านสไตล์มูจิ ที่ดูเผิน ๆ แล้วก็แทบจะไม่แตกต่างกับบ้านสไตล์มินิมอลเลย แล้วบ้านมูจินั้นคืออะไร บทความ บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้ เรื่องนี้ ก็จะพาทุก ๆ คนไปรู้จักกับบ้านสไตล์นี้พร้อม ๆ กันเลย พร้อมพาไปรู้จักความเป็นมาเกี่ยวกับบ้านสไตล์นี้ในแบบที่คุณอ่านจบก็จะสามารถแบ่งแยกได้เลยว่าบ้านแบบไหนคือมินิมอล หรือ แบบมูจิ ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นไปรับชมกันเลยครับ 

บ้านสไตล์ มูจิ คืออะไร 

บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้1
  • ต้องย้อนกลับไปในช่วงปีค.ศ. 2004 แบรนด์ที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ และ สินค้าแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น อย่าง มูจิ (Muji) มีผู้คนนิยมนำสินค้า ไปใช้ตกแต่งบ้านกันอย่างแพร่หลาย จนมีการเรียกกันว่า แต่งบ้านสไตล์มูจิ ซึ่งการแต่งบ้านแบบนี้ เป็นสไตล์เฉพาะตัวแบบชาวตะวันออก เน้นการประหยัดพื้นที่ ใช้สอยพื้นที่ให้ได้ประโยชน์ที่สุด การตกแต่งเรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย จัดวางสิ่งของอย่างมีระเบียบ สะอาดตา ดูโปร่งโล่ง ของตกแต่งบ้าน มักจะเป็นทรงเหลี่ยม ทรงกลม โดยใช้สีโมโนโทน หรือสีโทนธรรมชาติ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ๆ อย่างสีของไม้ธรรมชาติ สีอ่อน สีครีม สีขาว นั่นเอง การแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น หรือบ้านสไตล์มูจินี้ จะมีความคลายกับการแต่งบ้านสไตล์ Modern Minimal และบ้านสไตล์นอร์ดิก (Nordic Style) หรือบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian Style) ตรงความน้อยแต่มาก สวยเรียบง่าย งดงาม และลงตัว ส่วนในเรื่องของความแตกต่าง จะอยู่ตรงที่บ้านสไตล์มูจิ เน้นเลือกเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งดีไซน์ธรรมดา ไม่แปลกตาจนเกินไป และจะเสริมลูกเล่น เสริมรายละเอียดเล็กน้อย ตามขาโต๊ะ เก้าอี้ พนักพิง หรือลวดลายบนบานหน้าต่าง

การแต่งบ้านสไตล์มูจิต้องมีอะไรบ้าง

บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้2
  • การแต่งบ้านแบบมูจิ จะมีความคล้ายคลึงกับการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ต่างกันตรงที่ทุกพื้นที่การใช้งานได้รับการออกแบบมาแล้วว่าจะใช้ตามวัตถุประสงค์ใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮ้าส์ ทาวโฮมส์ บ้านเดี่ยว หรือบ้านเหล็กกล่อง ก็สามารถตกแต่งสไตล์มูจิได้เช่นกัน เทคนิคและไอเดียแต่งบ้านสไตล์มูจิ มีดังนี้
บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้3
  1. ผนังห้องควรใช้สีอ่อน และเป็นสีโทนเดียวกันทั้งบ้าน เพราะการแต่งบ้านสไตล์นี้ เน้นการใช้สีที่ทำให้รู้สึกอยู่แล้วสบาย สว่างตา โดยมากมักเลือกผนังสีขาวเป็นหลัก แต่หากมีสีเข้ม อาจเลือกเป็นสีน้ำตาล สีเทา หรือแม้แต่สีดำ ควรใช้แค่เฉพาะจุด เช่น พื้น กรอบประตู คิ้วผนัง บันได ไม้บัว หรือใช้กับของตกแต่งบ้านแทน เพราะจะช่วยเพิ่มให้ชิ้นส่วนนั้น ๆ โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ทำให้ดูมีมิติและมุมมองที่ชวนหลงไหล มองยังไงก็ไม่เบื่อ
บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้4
  1. ซ่อนสายไฟ ไม่ให้มองเห็นการเดินสายไฟ ถ้าหากเป็นบ้านที่มีการเดินสายไฟเรียบร้อยแล้ว อาจต้องออกแบบการเดินสายไฟใหม่ด้วย แต่หากคิดว่ายุ่งยากเกินไป อาจใช้วิธีซ่อนสายไฟไว้ในท่อ PVC หรือรางสายไฟ ก็สามารถช่วยได้อยู่เหมือนกัน แต่ต้องเลือกท่อ PVC สีที่เข้ากับโทนบ้าน เช่น สีขาว สีครีม เป็นต้น นอกจากนั้นจำเป็นต้องระวังเรื่องจุดวางท่อ จะต้องเป็นจุดที่ไม่สามารถมีน้ำรั่วซึมเข้าไปได้ เพราะต่อให้น้ำไม่สัมผัสสายไฟโดยตรง แต่ความชื้นจากน้ำก็สามารถทำให้กระแสไฟขัดข้องได้เช่นกัน ดังนั้นขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นเป็นคนคำนวณออกแบบมาเป็นอย่างดี รวมถึงช่างที่มาทำด้วยเพราะจำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาซ้ำซ้อนในอนาคตได้ 
บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้5
  1. เฟอร์นิเจอร์สีไม้ธรรมชาติ ดีไซน์เรียบง่าย ถ้าคุณต้องการออกแบบบ้านให้เป็นสไตล์มูจิ ที่ออกแบบเพื่อเน้นความรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม การเลือกเฟอร์นิเจอร์ จึงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ดังนั้นควรใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นสีแนว Earth Tone หรือสีขาว เพื่อให้รู้สึกถึงความสะอาดตา สบายใจ และรู้สึกอบอุ่นไปพร้อม ๆ กัน และ เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกนั้นก็จะต้องเลือกเป็นแบบที่เรียบง่ายแต่อเนกประสงค์เพื่อให้สอดคล้องกับสไตล์มูจิด้วยเช่นกัน
บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้6
  1. จำกัดจำนวน และ เลือกเฟอร์นิเจอร์ขนาดที่เหมาะสม ตามภายใต้แนวคิดที่ว่าประหยัดพื้นที่ และใช้สอยพื้นที่ให้ได้ประโยชน์ที่สุด ดังนั้นควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้จริง และ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่จะนำมาจัดวาง เพื่อให้บ้านมีพื้นที่ใช้สอยคุ้มค่ามากที่สุด เป็นแนวคิดที่บ้านสไตล์มูจิขาดไม่ได้
บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้7
  1. ปรับพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ เป็นช่องเก็บของและชั้นวางของ บ้านสไตล์มูจิ ให้ความสำคัญกับเรื่องสเปซ คือเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของบ้านสไตล์มูจิ อย่างเช่นการมีชั้นวางของ ช่องเก็บของอยู่แทบทุกจุดที่สามารถจัดวางไว้ เพื่อให้ข้าวของเป็นระเบียบ และ หยิบใช้งานได้ง่าย หรือ จะจัดวางให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในบ้านมากที่สุด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้บ้านที่ทั้งสวยงามน่าอยู่เป็นระเบียบได้ไม่ยาก แถมยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย
บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้8
  1. จัดสรรพื้นที่ให้โปร่งโล่งสบาย และ อากาศถ่ายเทได้ดี อย่างเช่นการเปิดหน้าต่าง เพื่อให้แสงแดด และอากาศจากธรรมชาติถ่ายเทเข้ามาในบ้าน ซึ่งทำแบบนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิถีที่ชาวญี่ปุ่นทำกัน นอกจากจะช่วยเรื่องอากาศถ่ายเทได้แล้ว ยังช่วยเรื่องประหยัดพลังงานได้ดีด้วย นอกจากนี้ถ้าบ้านของคุณอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หรือ มีสวนในบ้านด้วย คุณก็จะได้รับออกซิเจนที่บริสุทธิ์จากธรรมชาติเข้ามาภายในบ้าน ทำให้บ้านคุณเย็นสบายได้ตลอดทั้งวัน
บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้9
  1. ตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้ เพื่อให้ใกล้ชิด และ เข้าถึงธรรมชาติได้ง่าย ช่วยให้ผู้อาศัยจะได้มีจุดพักสายตา และผ่อนคลายไม่ให้เกิดความเครียด สามารถตกแต่งภายในบ้านด้วยต้นไม้ โดยใส่กระถางเล็ก ๆ หรือ แจกัน ด้วยต้นไม้ หรือ ดอกไม้ที่ไม่ได้มีสีสันฉูดฉาดมากนัก เมื่อมารวมอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ก็ช่วยให้บ้านคุณดูสดใสน่าอยู่ เป็นสไตล์ญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ 
บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้10
  1. ของตกแต่งบ้านเก๋ ๆ เพิ่มความมูจิ เฟอร์นิเจอร์ หรือองค์ประกอบหลักของการ แต่งบ้านสไตล์มูจิ จะค่อนข้างเรียบ ๆ จึงอาจเลือกของตกแต่งบ้านเก๋ ๆ มาวางเพื่อให้ดูลงตัวมากยิ่งขึ้น เช่น แจกัน กรอบรูป ของตกแต่งผนัง เป็นต้น หรืออาจจะเลือกพวกข้าวของ เครื่องใช้ ที่ใช้ประจำ ๆ ให้เป็นของตกแต่งไปด้วยเลยก็ได้ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า แก้วน้ำ จานชาม เป็นต้น

ข้อดีของบ้านสไตล์มูจิ

บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้11
  1. ไม่ดูเยอะจนรกหรือน้อยไปจนกลายเป็นบ้านโล่ง เป็นการแต่งบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่เน้นความเรียบง่าย มองแล้วให้ความรู้สึกสบายตา
  2. พื้นที่ในบ้านใช้สอยอย่างคุ้มค่า การตกแต่งสไตล์นี้จะต้องใช้พื้นที่ในบ้านให้เกิดประโยชน์และเหมาะสมมากที่สุดๆ ในทุกๆ ตารางเมตร เน้นให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก การเพิ่มพื้นที่ห้องตามสไตล์ของ MUJI คือไม่ต้องกั้นห้อง
  3. โทนสีอ่อนควบคุมง่าย แนะนำว่าให้เป็น สีเดียวและไปในทิศทางเดียวกัน โดยเน้นเป็นสีอ่อน ไม่ฉูดฉาดเกินไปเช่น สีขาว สีเหลืองนวล หรือสีเอิร์ธโทน และจะคลุมโนแบบนี้ทั้งบ้าน
  4.  เฟอร์นิเจอร์ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่อลังการ สไตล์มูจิ คือ เน้นความเรียบๆ ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ต้องไม่ออกแบบดีไซน์มาเยอะ บิวท์อินแค่เท่าที่ใช้งาน หรือเป็นแบบลอยตัวก็ได้
  5. ไม่เปลืองงบประมาณในกระเป๋าสตางค์ ด้วยความที่เป็นสไตล์ MUJI เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ควรเลือกใช้เท่าที่จำเป็น และไม่ต้องมีราคาแพงมากแต่ได้ของที่มีประสิทธิภาพ

สรุป

บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้12

เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบบ้านที่คล้ายคลึงกับบ้านสไตล์มินิมอลมาก ๆ เลยสำหรับบ้านสไตล์มูจิ แต่จากบทความ บ้านญี่ปุ่นสไตล์มูจิคืออะไร มีมาตั้งแต่เมื่อไร พร้อมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์นี้ เรื่องนี้ ข้อแตกต่างที่เราเห็นได้ชัดระหว่างบ้านมูจิกับบ้านสไตล์มินิมอล คือข้อจำกัดของบ้านสไตล์มูจินั้นมีเยอะกว่า และ จะไม่หลากหลายเท่ากับบ้านสไตล์มินิมอล แต่ถึงยังไงด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ นั้นก็ทำให้บ้านสไตล์นี้มีความเรียบง่ายสวยงามน่าอยู่ และ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่หลายจุด ซึ่งทำให้เป็นบ้านอีกหนึ่งสไตล์ที่มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่นแท้ ๆ อีกหนึ่งรูปแบบที่คู่ควรแก่การรักษาไว้เช่นกัน ส่วนในครั้งหน้าเราจะมีบทความน่าสนุกแบบไหนมาให้รับชมกันนั้น โปรดติดตามกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ

บ้านญี่ปุ่น สไตล์มูจิ 4