บ้านคอทเทจหลังเล็ก
บ้านคอทเทจหลังเล็ก รูปแบบการตกแต่งบ้านในปัจจุบันมีความหลากหลาย ผู้อยู่อาศัยให้ความสำคัญในสไตล์การตกแต่งบ้านมากยิ่งขึ้น เพราะแนวทางการออกแบบบ้านนั้นสะท้อนถึงรสนิยมของการอยู่อาศัยของแต่ละบุคคลอย่างชัดเจน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีสไตล์โมเดิร์นเป็นที่นิยมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกันสไตล์ร่วมสมัยก็ถูกจับตามองจากผู้อยู่รุ่นใหม่เช่นกัน และอีกหนึ่งแนวทางที่กำลังได้รับความสนใจไม่แพ้กันต้องยกให้กับสไตล์คอทเทจ บ้านไทย
ความโดดเด่นของสไตล์ดังกล่าวนั้นหลากหลายท่านมองว่าคล้ายกับสไตล์คันทรีคือการนำเอาวัสดุอุปกรณ์จากธรรมชาติมากตกแต่ง ในทางกลับกันความเหมือนมีความต่างเพราะสไตล์คอทเทจมุ่งเน้นความเรียบง่ายที่มากกว่า สะท้อนให้เห็นจากสีที่นำเอาโทนสีอันอบอุ่นมาปรับใช้ รวมทั้งการจัดการพื้นที่อย่างคุ้มค่าในรูปแบบการบิวท์อิน ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์หรือของเครื่องใช้ที่สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่น แฝงความเป็นวินเทจอย่างเด่นชัด โดยความเป็นตัวตนของสไตล์คอทเทจนั้นทำให้ผู้อยู่อาศัยสมัยใหม่ให้ความสำคัญและพร้อมเรียนรู้เพื่อนำมาปรับใช้
กระท่อมขนาดกะทัดรัด
ระเบียงกว้างชวนแวะมาพักผ่อนหย่อนใจ “อยากมีบ้านเอาไว้พักกายพักใจสักหลังกันไหมครับ” ในขณะที่หลายคนมองหาวิลล่าหรูที่จะแวะไปพักผ่อน แต่เราเชื่อว่ามีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่หลงรักบ้านแบบกระท่อม ขอแค่หลังเล็ก ๆ ไม่ต้องใหญ่ ตกแต่งอย่างอบอุ่นเข้าถึงง่ายๆ มีธรรมชาติ มีระเบียงนอกบ้านให้นั่งนอนหย่อนใจ มีครัวน้อยทำอาหารอร่อยๆ ทานกันเอง และใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์แบบที่ชอบ เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” ขอเอาใจคนชอบอะไรบ้านๆ แต่มีรายละเอียดเก๋ ๆ ที่ไม่เชย เผื่อใครต้องการเก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างกระท่อมไว้พักในสวนหรือสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเล็ก ๆ ครับ
Cabana Itu บ้านสำเร็จรูปเก่ากลางสวนเขียวขจีภายในเมืองเซาเปาโลหลังนี้ ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยสถาปนิก Carlos Duarte และ Juliana Nogueira จากสำนักงาน Macro Arquitetos ซึ่งตั้งใจจะคงบุคลิกบ้านแบบชนบทเอาไว้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนใคร บ้านเดิมมุงหลังคากระเบื้องดินเผาที่สภาพยังใช้งานได้ ตัวบ้านสร้างด้วยไม้ที่หาได้ในท้องถิ่น ทีมงานเก็บสิ่งที่ใช้งานได้เหล่านี้ไว้ แล้วเน้นเสริมโครงสร้างของอาคารให้แข็งแรง พร้อมเพิ่มคุณภาพชีวิตของครอบครัว ด้วยการตกแต่งระเบียงใหม่ ใส่สระว่ายน้ำล้อมรอบด้วยสนามหญ้า กลายเป็นพูลวิลล่ากะทัดรัดที่ชวนคลายร้อนในช่วงซัมเมอร์ วิลล่า
บ้านมีเฉลียงเป็นรูปตัว L ขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าและด้านข้างของบ้าน หลังคาที่ยื่นออกมาคลุมช่วยปกป้องภายในจากแสงและฝน ยกพื้นที่สีเขียวมาเก็บไว้อย่างชิดใกล้ ด้วยการจัดสวนกระถางที่เต็มไปด้วยไม้ใบเขตร้อนเขียวขจี ในวันที่อากาศไม่เป็นใจก็ยังมีจุดที่ให้เจ้าของบ้านได้มีพื้นที่พักผ่อน พูดคุย และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์กลางแจ้ง ภายในฝ้าเพดานไม้รอบตัวบ้านให้โทนสีธรรมชาติ และถูกขับเน้นด้วยสีขาวที่ทาปิดคาน ประตู และหน้าต่าง อยู่ ช่วยเพิ่มความรู้สึกของเส้นสายในพื้นที่และมิติของสายตา
ขั้นตอนแรกของการปรับปรุงภายในบ้าน คือ การรื้อผนังและแทนที่ด้วยเหล็กเสริมแรงที่ใช้รับน้ำหนักแทน เพื่อรวมฟังก์ชันส่วนรวม อาทิ ห้องครัว ห้องทานข้าว เข้ากับห้องนั่งเล่น ให้กลายเป็นห้องโถงใหญ่ๆ ที่ดูกว้างขึ้น พื้นกระเบื้องเซรามิกเก่าถูกแทนที่ด้วยคอนกรีตขัดมันหนา 12 ซม. ทั่วทั้งบ้าน สายไฟในบ้านที่เก่าแล้วถูกร้อยใหม่ในท่อโลหะ หลายๆ จุดแขวนโคมไฟแบบเปลือยสายไฟ และไฟรางสีดำ ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปเจือกลิ่นอายอินดัสเทรียลเล็ก ๆ
ในห้องทานอาหารเป็นอีกจุดที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะสะดุดตากับโต๊ะที่มีโครงสร้างเหล็กมีลูกล้อ เคาน์เตอร์ครัวไม้ทาสีน้ำเงินเข้ม ท่อประปาโลหะ โคมไฟสไตล์เรโทร รวมถึงเก้าอี้ที่ช่วยเสริมสไตล์อินดัสเทรียล มีหน้าต่างบานใหญ่ในมุมตัดกับประตูห้องครัวที่หันไปทางด้านหลังของบ้าน ให้แสงสว่างและการระบายอากาศได้ตลอดทั้งวัน
สิ่งหนึ่งที่ชวนสังเกตคือ การตกแต่งแทรกด้วยเครื่องมือจักสานหัตถกรรมที่ทำให้ดูอบอุ่นแบบบ้านๆ โดยไม่ทิ้งรากเหง้าเดิม และทุกมุมของบ้านจะมีต้นไม้ตั้งวางอยู่ แม้แต่ในครัว ในห้องน้ำ ก็ยังมีพันธุ์ไม้ในร่มที่เลื้อยไต่ ไม้ด่าง ไม้อวบน้ำต่างๆ ตามไปให้ความสดชื่น
ห้องน้ำสองห้องสองโทนสีใน concept ตกแต่งเดียวกัน ออกแบบง่ายๆ แต่มีสไตล์ อารมณ์เหมืองอุตสาหกรรมในชนบทแบบ rustic industrial โดยมีท่อและก๊อกทองแดง เคาน์เตอร์ซิงค์ไม้ขาเหล็กที่วางอ่างทองแดงอยู่ ใส่กระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมนและไฟกลมสีขาว ท่อร้อยสายไฟเหล็กชุบสังกะสี ย้ำถึงความคลาสสิคแบบเรโทรที่ชวนให้เข้าใช้งานทุก ๆ วัน
การปลูกต้นไม้ในร่ม ควรเลือกพืชพันธุ์ที่มีคุณสมบัติไม่ต้องการแสงแดดมาก ไม่ต้องดูแลรดน้ำบ่อยๆ เพราะจะทำให้บ้านชื้นเกิดเชื้อราในบ้านได้ง่าย เป็นไม้เลื้อยหรือไม้ประดับ ไม้ใบสวยๆ ก็ได้ อย่างเช่น ม่ายสายไหม เกล็ดปลาช่อน ลิ้นมังกร ต้นฟิโลเดนดรอน หรือพืชที่ปลูกในน้ำได้เลยไม่ต้องให้น้ำบ่อย เช่น พลูด่าง ไผ่กวนอิม พืชตระกูลบัวบก ก็เป็นการสร้างสีเขียวในบ้านให้สดชื่นได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะตายง่ายเมื่ออยู่ในร่ม
ทำความรู้จักบ้านสไตล์คอทเทจ
บ้านสไตล์คอทเทจ คือบ้านที่ใช้การตกแต่งแบบคันทรีในฝั่งตะวันตก สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์อื่นได้ไม่ยาก เพราะมีความเป็นธรรมชาติอยู่ในตัวค่อนข้างสูงจากวัสดุที่เลือกใช้ในการสร้าง เช่น เปลือกไม้ หิน ไม่ว่าจะเป็นของจริงจากธรรมชาติหรือของเทียมที่อาจมีราคาถูกกว่า ผสมการตกแต่งอื่น ๆ ด้วยวัสดุที่เป็นของเก่า เพื่อให้ลงตัวกับองค์ประกอบโดยรวมของบ้าน ซึ่งบ้านสไตล์คอทเทจนี้สามารถสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี
ในประเทศไทยแบบบ้านคอทเทจเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยสไตล์คอทเทจสามารถปรับเปลี่ยนใช้วัสดุในธรรมชาติที่หาได้ง่ายในประเทศไทยเลยไม่เป็นปัญหาในด้านการก่อสร้าง แต่อาจจะปรับแบบจากต่างประเทศนิดหน่อย เช่น ต่างประเทศจะมีเตาผิงไฟสำหรับหน้าหนาวแต่บ้านเราไม่จำเป็นต้องใช้ หรือวัสดุต่าง ๆ ที่ไม่มีในไทยก็สามารถใช้วัสดุอย่างอื่นแทนได้ มาดูกันว่า HomeTalks นำแบบบ้านสไตล์คอทเทจแบบไหนมาฝากบ้าง
บ้านสไตล์คอทเทจ (Cottage) เป็นรูปแบบบ้านที่มีลักษณะคล้ายกับกระท่อม แต่…กระท่อมที่ว่านี่คือกระท่อมที่ดูมีความอบอุ่นสวยงามในแบบฉบับของต่างประเทศนะครับ ไม่ใช่กระท่อมกลางนาแบบบ้านเรา อันที่จริงการแต่งบ้านสไตล์คอทเทจ ก็ไม่เชิงเป็นสไตล์สักเท่าไรนะครับ แต่เป็นรูปแบบการตกแต่งให้บ้านดูสบายๆ มีกลิ่นอายของ Rustic หวานๆ เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก ทำให้นำมาดัดแปลงเข้าได้กับหลายๆสไตล์ สำหรับใครที่คิดอยากจะลองตกแต่งภายในบ้านให้เป็นสไตล์นี้ บทความนี้บียอนก็จะขอแนะนำวิธีการที่จะทำอย่างไรให้บ้านของเรามีบรรยากาศในสไตล์ Cottage ในแบบเข้าใจง่ายมาฝากครับ
Cottage Style
Cottage Style เป็นการตกแต่งบ้านแบบคันทรี่ในฝั่งตะวันตก สามารถมิกซ์กับสไตล์อื่นๆได้ไม่ยาก เห็นชัดที่สุดก็น่าจะเป็นสไตล์วินเทจเพราะมีความคล้ายคลึงกัน บ้านที่ตกแต่งภายในสไตล์นี้จะมีบรรยากาศที่ดูเป็นธรรมชาติน่าอยู่อาศัย สร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้ดี เนื่องจากวัสดุที่ใช้จะเน้นความเป็นธรรมชาติ และดูเรียบง่าย อาทิเช่น การใช้ไม้สนโชว์ผิวไม้ทำฝ้าเพดานหรือผนัง งานจะไม่ละเอียดมากจนเกินไปเพื่อให้เห็นถึงพื้นผิวความเป็นธรรมชาติของไม้ อีกทั้งยังผสมการตกแต่งอื่น ๆ ด้วยวัสดุที่เป็นของเก่าเข้ามาอยู่บ้าง เพื่อให้ลงตัวกับองค์ประกอบโดยรวมครับ
บ้านที่ตกแต่งบ้านสไตล์คอทเทจส่วนมากนิยมเลือกใช้สีโทนกลางที่ดูเป็นธรรมชาติ หรือสีเอิร์ทโทน เช่น สีเบจ ขาว เทา ดำ น้ำตาล และครีม เป็นต้น อาจจะมีการนำวอลเปเปอร์เข้ามาช่วยเสริมให้ผนังดูโดดเด่น ซึ่งลวดลายของวอลเปเปอร์นั้นมักจะใช้เป็นลายดอกไม้ ลายผิวไม้ ซะส่วนใหญ่ สำหรับการตกแต่งในรูปแบบนี้สามารถสร้าง Pattern โดยการนำมาผสมผสานกับสไตล์อื่นๆได้อย่างหลากหลายมากครับ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงก็คือการ Mix and Match นั่นเอง
โดยเราควรดูว่าสีใช้มีความเข้ากันได้มากน้อยแค่ไหน อาทิ English cottage มักนิยมดึงสีชมพูหรือเขียวเข้ามาใช้ในการตกแต่ง ในส่วนของลวดลายมักจะใช้ลายดอกไม้เข้ามามีส่วนร่วมก็ทำให้การตกแต่งดูชัดเจนและลงตัวมากขึ้นครับ สำหรับ Rustic cottage จะเป็นงานไม้และเหล็กที่เอามาผสมผสานกัน เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ที่ดูหยาบๆ เลือกใช้สีเขียว สีทอง สีสนิมเพื่อความลงตัว และ Beach cottage จะเน้นการแต่งด้วยโทนสีที่ให้ความรู้สึกถึงทะเล อย่างสีฟ้าอ่อน ๆ หรือสีของทราย และมีการนำสีขาวเข้ามาเป็นองค์ประกอบร่วมซึ่งจะทำให้บรรยากาศภายบ้านดูสดใสสบายตา
งนั้น Cottage Style จึงถือเป็นการตกแต่งบ้านที่อาจจะไม่ได้มีดีเทลที่ดูยุ่งยากมากนัก เพราะมีสัดส่วนที่มีความกะทัดรัด เป็นการตกแต่งภายในที่พร้อมใช้งาน และให้ความรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นเมื่อได้อยู่อาศัย สำหรับใครที่อยากลองปรับบ้านให้เป็น Cottage Style อาจจะเริ่มจากการหาของตกแต่งเล็กๆ มาลองทำอย่างที่บอกไว้ขั้นต้นดูก่อนก็ได้ครับ และถ้าหากคุณเริ่มรู้สึกหลงรักสไตล์นี้ขึ้นมาเมื่อไร ค่อยขยับขยายการตกแต่งให้ใหญ่ขึ้นก็ไม่เสียหายอะไรนะครับ