บ้านสไตล์ฟาร์มแบบไทย
บ้านสไตล์ฟาร์มแบบไทย บ่อยครั้งที่เราพบว่าคอนเซปต์หลักในการออกแบบบ้านหลังหนึ่ง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการที่พักพิงหรือปกป้องผู้อยู่อาศัยจากสภาพแวดล้อม นั่นอาจจะเป็นเพราะเราต่างรู้ดีว่าโดยพื้นฐานบ้านต้องทำหน้าที่เหล่านี้อยู่แล้ว แต่มีแรงบันดาลใจมาจากการค้นหาคุณสมบัติที่หายไปจากชีวิตประจำวัน เช่น การใช้ชีวิตเรียบง่ายอ่านเพิ่มเติม
Farm to Table House บ้านฟาร์มปลูกผักใจกลางธรรมชาติ
ลดความรู้สึกเร่งรีบและวุ่นวายของชีวิตแบบเมือง ความต้องการเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ หรือการบรรจุกิจกรรมที่ชอบลงไปในพื้นที่ที่กลายเป็นปัจจัยกำหนดของการก่อตัวของบ้าน เหมือนเช่นบ้านนี้ที่จุดประสงค์แรกคือ “ต้องการสร้างบ้านที่สามารถรองรับการจัดปาร์ตี้ เวลามีเพื่อน ๆ มารวมตัวกันหลายคนได้ และปลูกผักสวนครัวเป็นกิจกรรมให้กับผู้พักอาศัย อยู่ภายใต้งบประมาณที่ตั้งเอาไว้”
จุดเริ่มต้นของบ้านที่ดูน่าสบายหลังนี้ เกิดจากเจ้าของโครงการมีพื้นที่เปล่าขนาดประมาณ 3 งานกว่าๆ ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ด้วยศักยภาพของพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่่ไซต์งานถูกล้อมไปด้วยทิวทัศน์ภูเขา จึงมองว่าที่นี่เหมาะจะสร้างบ้านสำหรับพักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายจากเมือง สามารถแวะมาทำงาน work from home ในช่วงที่อาจจะต้องรักษารยะห่างระหว่างได้ หรือจะใช้เป็นจุดศูนย์กลางพบปะสังสรรค์เพื่อนๆ กางเต็นท์รับบรรยากาศเอาใจสายแคมป์ปิ้ง
Wardwai Architect ผู้ออกแบบตั้งใจให้ทุกพื้นที่ใช้สอยในบ้านสามารถมองเห็นภูเขาได้ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหน ส่วนการออกแบบดีไซน์อาคารได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิดฟอร์มของฟาร์มปศุสัตว์ยุโรปที่ใช้ไม้แบบแนวตั้งพิมพ์ลายลงไปบนผิวคอนกรีต เกิดเป็น texture ใหม่ที่ดูน่าสนใจ และด้วยรูปทรงหลังคาจั่วไล่ระเับ 3 ระดับยกพื้นสูง มีเฉลียงทางเดิน ผสมผสานเส้นสายของระแนงในอีกมุมมองจึงให้ความรู้สึกเหมือนมีกลิ่นอายบ้านแบบญี่ปุ่นเจืออยู่เล็ก ๆแบบบ้านสามชั้นสีขาว
เมื่อเดินผ่านระเบียงทางเดินแล้วจะพบกับชานด้านหน้าบ้านทางทิศตะวันออกเป็นมุมนั่งจิบกาแฟยามเช้าพร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น ใจกลางบ้านมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดบ้านให้โล่งเหมือนไร้ผนังรับลมเย็นๆ ที่พัดผ่านตลอดเวลา แค่ได้นั่งเล่นนอนเล่นในมุมนี้ก็รู้สึกผ่อนคลายจนไม่อยากไปไหน
ในส่วนของฟาซาดบ้านที่เชื่อมต่อกับบันได ทีมงานเลือกใช้เป็นระแนงไม้เทียมเป็นเส้นตรงขนาดเล็ก ๆ จัดวางเรียงกันในแนวตั้งให้เกิดเป็นริ้ว เพื่อทำหน้าที่ช่วยกรองแสงที่จะแรงขึ้นในช่วงบ่าย และยังทำให้เกิดมิติของแสงและเงากระทบกับพื้นผิวบ้านที่เปลี่ยนแปลงทิศทางและรูปร่างไปตามการเดินทางของแสงในแต่ละช่วงเวลา
บริเวณชั้น 1 เป็นพื้นที่หลักของบ้านออกแบบมาให้เป็นห้องโถงโล่งๆ ขนาดใหญ่แบบ open plan เรียงฟังก์ชันนั่งเล่น ทานข้าวและเคาน์เตอร์ครัวต่อ ๆ กัน โดยไม่มีผนังแบ่งห้องเป็นห้องเล็กห้องน้อย และมีครัวไทยบริเวณหลังบ้านรองรับวันทำเมนูหนัก ๆ ซึ่งเป็นการจัดแปลนที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเจ้าของบ้าน
เหนือโต๊ะตัวใหญ่เป็นโถงสูง (Double Space) ที่มีช่องระบายความร้อนที่ชั้น 2 ทำให้ความร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงและระบายออกจากตัวบ้านได้ง่าย เมื่อากาศไหลเวียนไม่มีความร้อนสะสม จึงทำให้รู้สึกถึงสภาวะสบายในบ้าน นอกจากนี้โถงสูงยังทำหน้าที่เพิ่มการเชื่อมต่อ ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในมิติแนวตั้งให้คนที่อยู่ชั้นล่างและห้องนอนชั้นบนสื่อสารกันได้แบบไม่ขาดการติดต่อ
เดินตามบันไดขึ้นมาบนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนตัว บ้านโซนห้องนอนหลักของบ้านหลังที่ตกแต่งด้วยผนังปูนขัดมันแบบลอฟต์สีเขียว และฝ้าที่กรุไม้ตามแนวหลังคาแบบ lean-to ลาดลงไปเหนือขอบหน้าต่างทำให้รู้สึกถึงพื้นที่เกิดเป็นความโปร่งโล่งเมื่ออยู่ในห้อง และยังขยายมุมมองเมื่อมองผ่านหน้าต่างไปยังภูเขาได้อย่างชัดเจนเขียว ๆ ผ่านหน้าต่างแนวตั้งสูงที่เรียงยาวติดต่อกันหลายๆ บาน
ที่ชื่นชอบการทำอาหารและมักทานข้าวพร้อมกันที่โต๊ะนอกบ้านนั่งเล่นพูดคุยเป็นช่วงเวลาคุณภาพของครอบครัว จึงนำส่วนนี้มาเป็นหัวใจหลักของบ้านโดยวางโต๊ะยาวขนาดหลายที่นั่งเอาไว้บริเวณกลางบ้าน เป็นจุดเชื่อมโยงพื้นที่กิจกรรม เพื่อให้ง่ายต่อการรวมตัวสังสรรค์และสามารถมองเห็นวิวทิวเขา แปลงผัก พื้นที่ปาร์ตี้เอาท์ดอร์ได้อย่างชิดใกล้ จึงเป็นที่มาของชื่อโครงการ Farm to table house
จะทักทายกันจากห้องข้างๆ หรือพูดคุยกับคนในบ้าน สมาชิกที่นั่งเล่นอยู่บนระเบียงทางเดินก็ทำได้แบบง่ายๆ รู้สึกยิ่งชิดและใกล้การได้มาใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ช้าๆ แบบที่ชอบ ตื่นเช้ามาจิบกาแฟหอมๆ ท่ามกลางวิวภูเขา ได้ทานพืชผักปลอดสารพิษปลูกเองที่ดีต่อสุขภาพ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด เป็นชีวิตแบบละเมียดละไมที่ตอบรับความต้องการพักผ่อนได้เต็มร้อยเหมือนอย่างที่ตั้งใจ
ตกแต่งห้องนอนฟาร์มเฮ้าส์สไตล์
แน่นอนเลยว่าห้องนอนเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับบ้านสไตล์นี้ เพราะเนื่องจากห้องนอนจะมีความอบอุ่นและเป็นพื้นที่ส่วนตัวมากที่สุด เพราะหาใช้ลักษณะของบ้านสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์มาตกแต่ง โดยที่คุณจะต้องเริ่มต้นจากสีของห้อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเรามักจะใช้สีขาวหรือสีครีมไว้สำหรับการตกแต่งห้อง จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนของการจัดการความสะอาดห้องทุกสิ่งทุกอย่าง
ซึ่งแน่นอนเลยว่าคุณจะสามารถนำมาสลับกับสีฟ้า และที่สำคัญบ้านตายฟาร์มเฮ้าส์หรือห้องนอนสไตล์ฟาร์มเฮาจะขาดไม่ได้เลยก็คือ ผ้าม่าน เพราะเนื่องจากหากว่าคุณสามารถได้ผ้าม่านสีสว่าง อย่างเช่นผ้าม่านสีขาวไม่มีลายใดๆทั้งสิ้น ก็จะช่วยให้ห้องมีความคงเป็นธรรมชาติและคลาสสิก ซึ่งแน่นอนเลยว่าสีจากธรรมชาติอย่างแสงสว่างต่างๆ จะส่งเข้ามาถึงในห้องในช่วงเวลากลางวัน
จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยของบ้านในลักษณะนี้จะอยู่ในที่แสงสว่างอย่างพอเพียง และทุกซอกทุกมุมของภายในห้องจะไม่มีมุมใดเลย ที่อยู่ในรูปแบบของมุม เพราะนอกจากจะมีหน้าต่างรอบทิศทางของห้องแล้ว ยังมีแสงสว่างที่ช่วยผ่านแสงให้ส่องถึงจุดเด่นต่างๆของห้องได้อย่างสวยงาม ซึ่งแน่นอนเลยว่า Detail รายละเอียดต่างๆ หลายๆคนก็อยากจะรู้อย่างแน่นอนว่า ห้องนอนในลักษณะนี้จะเริ่มต้นที่ตรงไหน